ยามาโมโตะ ยาเอะ (
ญี่ปุ่น: 山本 八重;
โรมาจิ: Yamamoto Yae,
1 ธันวาคม ค.ศ. 1845 -
14 มิถุนายน ค.ศ. 1932) หรือชื่อหลังแต่งงานคือ
นีจิมะ ยาเอะ (
ญี่ปุ่น: 新島 八重;
โรมาจิ: Niijima Yae) เป็นสตรีที่มีช่วงชีวิตอยู่ในปลาย
ยุคเอโดะหรือ
บากูมัตสึ จนถึง
ยุคเมจิ ชื่อของเธอบางครั้งยังถูกเรียกเป็น
ยาเอโกะ (八重子) ด้วยยาเอะ เกิดเมื่อ
ค.ศ. 1845 ที่ไอซุ (
จังหวัดฟูกูชิมะ ประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน) เป็นธิดาของ
ซะมุไรยามาโมโตะ คมปาจิ (
ญี่ปุ่น: 山本 権八;
โรมาจิ: Yamamoto Konpachi) ผู้มีอาชีพเป็นครูสอนการยิงปืนอยู่ในไอซุ ตระกูลยามาโมโตะนี้อ้างการสืบเชื้อสายจาก
ยามาโมโตะ คันซูเกะ (
ญี่ปุ่น: 山本勘助;
โรมาจิ: Yamamoto Kansuke)
[1] ทหารเอกคนสนิทของ
ทาเกดะ ชิงเง็ง ยาเอะมีพี่ชายคือ ยามาโมโตะ คากูมะ (
ญี่ปุ่น: 山本 覚馬;
โรมาจิ: Yamamoto Kakuma) ในช่วงวัยเยาว์เธอมีความสนใจในการใช้อาวุธปืนซึ่งผิดแปลกไปจากสตรีในยุคสมัยเดียวกัน ต่อมาคากูมะผู้เป็นพี่ชายเดินทางไปศึกษาวิทยาการตะวันตกที่เมือง
เอโดะ ได้แนะนำให้นางยาเอะรู้จักกับคาวาซากิ โชโนซูเกะ (
ญี่ปุ่น: 川崎尚之助;
โรมาจิ: Kawasaki Shōnosuke) ซึ่งเธอได้สมรสกับโชโนซูเกะเมื่อปี 1865ในช่วง
สงครามโบชิง (戊辰戦争) หลังจากที่เข้ายึดนครเอโดะได้แล้ว ทัพฝ่ายพระจักรพรรดิได้รุกคืบขึ้นมาทางเหนือ เข้าโจมตีเมืองไอซุอันเป็นฐานที่มั่นสำคัญของฝ่ายสนับสนุนโชกุน เกิดเป็น
ยุทธการไอซุ (会津戦争) ขึ้นในปี 1868 ยาเอะได้ตัดสินใจปลงผมแต่งตัวเป็นชายถือปืนเข้าร่วมรบในการปกป้อง
ปราสาทไอซุวากามัตสึ (会津若松城) ในยุทธการครั้งนี้เมืองไอซุถูกทัพฝ่ายพระจักรพรรดิเข้ายึดครองในที่สุด คมปาจิบิดาของนางยาเอะเสียชีวิตในที่รบ และนายโชโนซูเกะผู้เป็นสามีถูกจับเป็นเชลยศึก หลังจากสงครามแล้วยาเอะได้เดินทางไปยังเมืองเกียวโต เพื่อเยี่ยมและดูแลพี่ชายนายคากูมะซึ่งถูกกุมตัวในฐานะเชลยศึกอยู่ นางยาเอะได้พบกับนาย
นีจิมะ โจ (
ญี่ปุ่น: 新島 襄;
โรมาจิ: Niijima Jō หรือ Joseph Hardy Neesima) มิชชันนารีชาวญี่ปุ่น นางยาเอะเข้ารีต
คริสต์ศาสนาและสมรสใหม่กับนีจิมะเมื่อ
ค.ศ. 1876 ยาเอะได้ร่วมกับนายนีจิมะผู้เป็นสามีในการก่อตั้ง
มหาวิทยาลัยโดชิชะ (同志社大学)นายนีจิมะผู้เป็นสามีคนที่สองเสียชีวิตลงเมื่อ
ค.ศ. 1890 หลังจากนั้นยาเอะได้ผันตนเองมาสู่ด้าน
การพยาบาลและเข้าทำงานใน
สภากาชาดญี่ปุ่น (日本赤十字社) ในช่วง
สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง (日清戦争) นางยาเอะได้เข้าทำงานที่เมือง
ฮิโรชิมะในฐานะนางพยาบาลช่วยเหลือทหารญี่ปุ่นที่ได้รับบาดเจ็บในสงคราม ด้วยคุณงามความชอบทำให้นางยาเอะได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนมงกุฎ (宝冠章) จาก
สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิเมื่อ
ค.ศ. 1896 ใน
ค.ศ. 1904 นางยาเอะได้เข้าช่วยเหลือทหารบาดเจ็บอีกครั้งใน
สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่นยาเอะถึงแก่กรรมในปี 1932 ด้วยอายุ 86 ปี ที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น